มะนาว เปี่ยมไปด้วยวิตามินซี และกรดซิตริก เป็นอาหารชนิดเดียวในโลกที่มีประจุลบ สามารถปรับสภาพร่างกายให้มีความเป็นด่าง ทั้งยังช่วยให้ตับผลิตน้ำดี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดี
ส้ม ช่วยกระตุ้นร่างกายให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพราะคุณค่าจากเบตาแคโรทีน วิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์ สังกะสี โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส
บีทรูต มีวิตามินบี1 บี2 และบี6 กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี ช่วยบำรุงรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดง เสริมประสิทธิภาพการรับออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง และเพิ่มออกซิเจนให้แก่เซลล์ได้สงถึง 400 เปอร์เซ็นต์
แครอท แหล่งรวมเบตาแคโรทีน แคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์ และคลอรีน ดีต่อระบบโลหิต และจำเป็นต่อการทำความสะอาดเนื้อเยื่อ ขณะที่ ผักโขม เปี่ยมคุณค่าที่ดีต่อตับ เลือด ถุงน้ำดี เพราะมีวิตามิน แร่ธาตุ คลอโรฟีลล์ เบตาแคโรทีน วิตามินบี6 วิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และโซเดียม แต่ก็ไม่ควรดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของผักโขมเกินกว่า 1 แก้วต่อสัปดาห์ เนื่องจากกรดอ็อกซาลิกที่มีอยู่ในผักโขมจะไปสกัดการดูดซึมแคลเซียม
ขิง นั้น มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินเอ มีฤทธิ์อุ่น ช่วยขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น สำหรับส่วนที่นำมาใช้ในเครื่องดื่ม คือ ราก ออกรสหวานเผ็ด ร้อนขม ขับเสมหะได้ดี
ส่วนผสมข้างต้นต้องเตรียมตามสัดส่วนต่อไปนี้...
ส้ม 2 ผล
ผักโขม 1 ถ้วย
บีตรูต 1 ถ้วย
มะนาว 2 ผล
แครอต 1 ถ้วย
รากขิง 1 ชิ้น
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
ขั้นตอนการปรุง เริ่มที่การนำผักและผลไม้ทั้งหมดไปล้างให้สะอาด จากนั้นนำส้มและมะนาวไปคั้นเอาแต่น้ำ ส่วนแครอตให้ขูดเป็นเส้นเล็ก ๆ รากขิงทุบพอแตก บีตรูตหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดเล็ก แล้วจึงนำส่วนผสมทั้งหมดมาสกัดด้วยเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้ สามารถเติมน้ำแข็งป่นเพิ่มความสดชื่น หรือจะฝานมะนาวเป็นแว่นบาง ๆ เพื่อตกแต่งขอบแก้วเครื่องดื่มให้ดูมีสีสันเพิ่มขึ้น.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์